เชิญติชมได้ที่เมล์นี้นะครับ

angel_memmory@hotmail.com

มีอะไรใหม่

วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2552

บทที่ 10 หัวใจของนรก

ในตอนกลางคืนดิฉันได้ไปนรกกับพระเยซูคริสต์ ในระหว่างตอนกลางวัน นรกมันอยู่ต่อหน้าดิฉันตลอดเวลา ดิฉันพยายามที่จะบอกคนอื่น ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่ดิฉันกำลังเห็นอยู่ แต่ว่าพวกเขา ไม่เชี่อดิฉัน ดิฉันรู้สึกโดดเดี่ยวมากเสียจริง และเพียงแต่สง่าราศีของพระเจ้าเท่านั้นที่ดิฉันสามารถดำรงอยู่ได้ สง่าราศีทั้งหมดเป็นของพระเยซูคริสต์เจ้า
คืนต่อมาพระเยซูคริสต์และดิฉันได้กลับไปยังนรก เราเดินไปตามขอบของท้องของนรก ดิฉันจำได้ถึงส่วนของท้องของนรกจากการเคยไปที่นั่นมาก่อนแล้ว เนื้อหนังที่เหม็นเน่าอย่างเดิมก็เป็นของปีศาจอย่างเดิม และอากาศร้อนที่แน่นิ่งอย่างเดิมในที่ทุกแห่งหน ดิฉันเหนื่อยมากอยู่แล้ว
พระเยซูคริสต์รู้ความคิดของดิฉันและตรัสว่า “เราจะไม่ทิ้งหรือตัดขาดจากเจ้า เรารู้ว่าเจ้าเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า แต่ว่าเราจะทำให้เจ้าเข้มแข็ง”
การสัมผัสของพระเยซูคริสต์ทำให้ดิฉันเข้มแข็งจริง ๆ และเราเดินต่อไป เบื้องหน้าดิฉันมองเห็นวัตถุสีดำขนาดใหญ่อย่างหนึ่ง ใหญ่เกือบจะเท่ากับสนามฟุตบอลล์ซึ่งดูเหมือนว่ามีการเคลื่อนไหวขึ้นและลง ดิฉันจำได้ว่าดิฉันได้รับการบอกเล่าว่านี้เป็นหัวใจของนรก การออกมาจากหัวใจสีดำเป็นสิ่งซึ่งดูเหมือนกับแขนขาขนาดใหญ่หรือเขา (เหมือนเขาวัวเขาควาย)ขนาดใหญ่ พวกเขากำลังออกมาจากมันและกำลังขึ้นไปและออกมาจากนรกเข้าไปสู่โลกและไปทั่วโลก ดิฉันสงสัยว่าเขาเหล่านี้ (เหมือนเขาวัวเขาควาย) เป็นเขาที่พระคัมภีร์ไบเบิ้ลได้พูดถึงหรือไม่
โดยรอบหัวใจ พื้นดินแห้งและมีสีน้ำตาล เพราะว่าประมาณสามสิบฟุตในทั่วทุกทิศทางพื้นดินถูกเผาไหม้และแห้งจนกลายเป็นสนิมสีน้ำตาลอมแดง หัวใจมีสีดำมากที่สุดแห่งสีดำทั้งหลาย แต่ว่าอีกสีหนึ่งที่เหมือนกับเกล็ดของผิวของงูนั้นเป็นสีที่ถูกทำให้ผสมกันขึ้นมากับสีดำ
กลิ่นที่เหม็นอย่างเหลือเกินโชยมาจากหัวใจในแต่ละครั้งที่มันเต้น มันเคลื่อนไหวราวกับหัวใจจริง ๆ และขยับขึ้นขยับลง สนามพลังปีศาจอยู่รอบ ๆ มัน
ด้วยความประหลาดใจดิฉันมองดูที่หัวใจปีศาจนี้ และสงสัยว่ามันมีจุดประสงค์อะไร (ว่าอะไรคือจุดประสงค์ของมัน)
พระเยซูคริสต์ตรัส “ เส้นแยกเหล่านี้ ซึ่งดูเหมือนเส้นโลหิตใหญ่ของหัวใจ เป็นเส้นท่อที่ผ่านทะลุเข้าไปในพื้นดินเพื่อที่จะทำให้พวกปีศาจกระจายไปทั่วบนพื้นดินนั้น ท่อเหล่านี้คือเขา (เหมือนเขาวัวเขาควาย) ที่ดาเนียล นักพยากรณ์ในศาสนาคริสต์ ได้มองเห็น และท่อเหล่านี้ได้นำเอาอาณาจักรปีศาจมาบนโลก อาณาจักรปีศาจบางแห่งได้มีอยู่เรียบร้อยแล้ว อาณาจักรปีศาจบางแห่งจะมีมาในอนาคต และอาณาจักรปีศาจบางแห่งมีอยู่ในบัดนี้แล้ว อาณาจักรปีศาจจะมีขึ้นมา และพวกที่ต่อต้านพระคริสต์จะปกครองอยู่เหนือผู้คนมากมาย เหนือสถานที่และเหนือสิ่งของต่าง ๆ ถ้าหากว่าจะเป็นไปได้ การเลือกตั้งจริง ๆ จะเป็นการหลอกลวงโดยเขา ผู้คนมากมายจะหันไปและจะกราบไหว้สัตว์เลี้ยงและรูปปั้นของสัตว์เลี้ยงนั้น
ออกมาจากเส้นแยกหลักเหล่านั้นหรือเขา จะมีเส้นแยกขนาดเล็กกว่าเกิดขึ้น จากเส้นแยกขนาดเล็กกว่าพวกปีศาจจะมา พวกวิญญาณปีศาจ และพลังของปีศาจทุกประเภทจะมา พวกมันจะถูกปลดปล่อยออกมาเหนือพื้นดินและถูกชักจูงโดยซาตานให้ทำงานที่ชั่วร้ายมากมาย อาณาจักรเหล่านี้และพลังแห่งความชั่วร้ายจะเชื่อฟังสัตว์ร้าย และจะมีจำนวนมากมายที่ติดตามสัตว์ร้ายไปเพื่อการทำลาย คือที่นี่ ในหัวใจของนรกที่สิ่งเหล่านี้เริ่มต้น
สิ่งเหล่านี้คือถ้อยคำที่พระเยซูคริสต์ได้ตรัสกับดิฉัน พระองค์แนะนำให้ดิฉันเขียนสิ่งเหล่านี้ออกมา เป็นหนังสือเล่มหนึ่งและบอกสิ่งเหล่านี้แก่โลก ถ้อยคำเหล่านี้เป็นความจริง การเปิดเผยเหล่านี้ถูกมอบให้แก่ดิฉัน โดยพระเยซูคริสต์พระผู้เป็นจ้า เพื่อว่าคนทั้งปวงจะได้รู้และเข้าใจงานของซาตานและแผนการอันชั่วร้ายที่ซาตานกำลังวางแผนสำหรับอนาคต
พระเยซูคริสต์ตรัส “ตามเรามา” เราเดินขึ้นไปบนบันได เข้าไปสู่หัวใจ ซึ่งประตูทางเข้าได้เปิด เบื้องหน้าเรา ในหัวใจนั้นมืดทั้งหมด ดิฉันได้ยินเสียงร้องไห้ และที่นั่นมีกลิ่นเหม็นมาก จนดิฉันแทบจะหายใจไม่ได้ ทั้งหมดที่ดิฉันสามารถมองเห็นได้ในความมืดก็คือพระเยซูคริสต์ ดิฉันเดินใกล้กับพระองค์มาก
และครั้นแล้ว ในทันทีทันใดนั่นเอง พระเยซูคริสต์ได้หายไป เป็นสิ่งที่ยากที่จะคิดว่าได้เกิดอะไรขึ้น ดิฉันอยู่เพียงลำพังในหัวใจของนรก ความหวาดกลัวครอบงำดิฉัน ความกลัวเกาะกุมวิญญาญของดิฉัน และความตายครอบงำดิฉัน
ดิฉันร้องหาพระเยซูคริสต์ “พระองค์อยู่ที่ไหนคะ พระองค์อยู่ที่ไหนค่ะ โอ ได้โปรดเถิด กลับมาเถิด พระองค์เจ้าข้า” ดิฉันเรียกแล้วเรียกอีก แต่ไม่มีเสียงขานรับ
“โอ พระเจ้าของดิฉัน” ดิฉันร่ำไห้ “ดิฉันจะต้องออกไปจากที่นี่” ดิฉันเริ่มวิ่งไปในความมืด ในขณะที่ดิฉันสัมผัสกับผนัง ผนังนั้นดูเหมือนกับว่ามันหายใจ เคลื่อนไหวปะทะกับมือของดิฉัน และแล้วดิฉันมิไดอยู่คนเดียวอีกต่อไป
ดิฉันได้ยินเสียงหัวเราะ ในขณะที่ปีศาจสองตน ซึ่งล้อมรอบโดยแสงว่างสลัว ๆ สีเหลืองคว้ามือของดิฉันไว้ พวกมันเอาโซ่ใส่มือของดิฉันอย่างรวดเร็ว และเริ่มต้นฉุดดิฉันลงไปในหัวใจที่ลึกยิ่งขึ้น ดิฉันกรีดร้องเพื่อหาพระเยซูคริสต์ แต่ว่าไม่มีเสียงขานรับ ดิฉันร้องไห้และต่อสู้ด้วยกำลังทั้งหมดที่ดิฉันมี แต่ว่าพวกมันฉุดดิฉันต่อไปราวกับว่าดิฉันมิได้ทำการต่อต้านอะไรเลย
ในขณะที่เราเดินลึกลงไปในหัวใจ ดิฉันรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่น่ากลัวราวกับว่ามีกำลังบางอย่างได้ถูกร่างกายของดิฉัน มันดูราวกับว่าเนื้อหนังจริงของดิฉันกำลังถูกเชือดออกจากดิฉัน ดิฉันเริ่มกรีดร้องออกมาในความหวาดกลัว
ผู้จับดิฉันได้ฉุดดิฉันไปยังห้องหนึ่งและเหวี่ยงดิฉันเข้าไปในภายใน ในขณะที่พวกมันใส่กุญแจประตู ดิฉันถึงกับร้องดังอีกยิ่งขึ้น พวกมันหัวเราะอย่างเยาะเย้ย และพูด “มันจะทำให้เจ้าไม่ดีที่จะร้อง เมื่อเวลาของเจ้ามาถึง เจ้าจะถูกนำไปอยู่ต่อหน้าเจ้านายของเรา เขาจะทรมานเจ้าเพื่อความเพลิดเพลินของเขา”
กลิ่นอันเหม็นเน่าของหัวใจ (ของนรก) ซึมเข้าไปในร่างของดิฉัน “ทำไมดิฉันจึงมาอยู่ที่นี่ มีอะไรผิดหรือ ดิฉันเป็นบ้าหรือ ขอให้ดิฉันออกไป ขอให้ดิฉันออกไป” ดิฉันร้องโดยไม่เกิดประโยชน์
หลังจากอีกครู่หนึ่งต่อมา ดิฉันเริ่มต้นรู้สึกถึงด้านข้างของห้องขังเดี่ยวที่ดิฉันอยู่ข้างใน มันเป็นวงกลมและมีความอ่อนนุ่มเหมือนบางสิ่งที่มีชีวิตอยู่ มันมีชีวิต และมันเริ่มต้นขยับ “โอ พระเจ้าข้า ” ดิฉันกรีดร้องออกมา “ อะไรกำลังเกิดขึ้น พระเยซูคริสต์ พระองค์อยู่ที่ไหน” แต่มีเพียงเสียงสะท้อนของเสียงของดิฉันเองสะท้อนกลับมาเป็นคำตอบ
ความกลัว ความกลัวที่น่าประหวั่นพรั่นพรึงมากที่สุดได้ครอบงำวิญญาณของดิฉัน เพราะว่าตั้งแต่ครั้งแรกที่พระเยซูคริสต์ปล่อยดิฉันไว้ ฉันเริ่มตระหนักว่าดิฉันได้สูญเสียโดยปราศจากความหวังใด ๆ ทั้งปวง ดิฉันร้องไห้สะอึกสะอื้น และเรียกหาพระเยซูคริสต์ครั้งแล้วครั้งเล่า ครั้นแล้วดิฉันได้ยินเสียงในความมืดกำลังพูด “ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเรียกหาพระเยซูคริสต์ พระองค์มิได้อยู่ที่นี่”
แสงสว่างสลัว ๆ เริ่มต้นปรากฎในสถานที่ เพราะว่าเป็นครั้งแรก ที่ดิฉันสามารถมองเห็นห้องขังเดี่ยวอื่น ๆ ห้องขังเดี่ยวที่เหมือนห้องขังเดี่ยวของดิฉัน แนบอยู่กับผนังของหัวใจเส้นใยบางชนิดอยู่ทางด้านหน้าของเรา และในภายใน แต่ละห้องขังเดี่ยวมีสารที่เหมือนโคลนเหนียวกำลังไหลเข้ามาในห้องขังเดี่ยว
เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งจากห้องขังเดี่ยวพูดกับดิฉัน “เธอหลงทางอยู่ในสถานที่แห่งการทรมานนี้ ไม่มีหนทางออกไปจากที่นี่ได้เลย”
ดิฉันแทบจะมองไม่เห็นเธอในความริบหรี่มากที่สุดของแสงไฟ เธอรู้ตัว เหมือนดังที่ดิฉันรู้ตัว แต่ว่าผู้คนที่อยู่ห้องขังเดี่ยวอื่น ๆ ทั้งหมดดูเหมือนว่ากำลังนอนหลับหรืออยู่ในภวังค์ “ไม่มีความหวัง” เธอร้อง “ไม่มีความหวัง”
ความรู้สึกถึงความโดดเดี่ยวที่รุนแรงและความสิ้นหวังอย่างสิ้นเชิงได้จู่โจมดิฉัน คำพูดของผู้หญิงคนนี้มิได้ช่วยดิฉันเลย เธอพูด “นี่คือหัวใจของนรก ณ ที่นี่เราถูกทรมานแต่ว่าการ ทรมานของเราไม่เลวร้ายเหมือนการถูกทรมานของพวกเขาเหล่านั้นในส่วนอื่น ๆ ของนรก” ดิฉันได้รู้ในเวลาต่อมาว่าเธอได้โกหกเกี่ยวกับที่ว่าไม่มีการทรมานมาก ณ ที่นี่เหมือนที่มีอยู่ในที่อื่น ๆ ในนรก
“บางครั้ง” เธอพูดต่อไป “เราถูกนำไปต่อหน้าซาตาน และเขาจะทรมานเราเพื่อความเพลิดเพลินของเขา ซาตานเลี้ยงชีพอยู่บนความเจ็บปวดของเรา และเขาแข็งแรงขึ้นจากเสียงร้องแห่งความสิ้นหวังและแห่งความโศกเศร้าของเรา ความผิดบาปของเราจะอยู่ต่อหน้าเราเสมอ เรารู้ว่าเราไม่เชื่อพระเจ้า เรายังรู้ด้วยเหมือนกันว่า เมื่อเรารู้จักพระเยซูคริสต์เจ้าแล้วปฎิเสธพระองค์และหันหลังจากพระเจ้า เราได้ทำอย่างที่เราพอใจ ก่อนที่ฉันจะมาที่นี่ ฉันเป็นหญิงโสเภณี ฉันเอาเงินจากพวกผู้ชายและจากพวกผู้หญิงและเรียกสิ่งทีเราทำว่า ” “ความรัก” ฉันได้ทำลายครอบครัวหลายครอบครัว (ทำให้บ้านหลายครอบครัวแตกสลาย) พวกเลสเบี้ยน (ผู้หญิงที่ชอบเพศเดียวกันเองในทางเพศ) พวกโฮโมเซ็กซ์ชวล (ผู้ชายที่ชอบเพศเดียวกันในทางเพศ) และล่วงประเวณี ต่างอยู่ในห้องขังเดี่ยวเหล่านี้”
ดิฉันร้องออกมาในความมืด “ฉันมิได้เป็นของที่นี่ ฉันได้รับการช่วยให้รอด ฉันเป็นของพระเจ้า ทำไมเล่าฉันจึงอยู่ที่นี่” แต่ว่าไม่มีคำตอบกลับมา
ครั้นแล้วเจ้าปีศาจได้กลับมาและเปิดประตูห้องขังเดี่ยวของดิฉัน ปีศาจตนหนึ่งดึงดิฉัน อีกตนหนึ่งผลักดิฉันไปตามทางที่หยาบ ๆ การสัมผัสของเจ้าปีศาจเหมือนกับเปลวไฟที่กำลังลุกไหม้เนื้อหนังของดิฉัน พวกเขากำลังทำร้ายดิฉัน
“โอ พระเยซูคริสต์ พระองค์อยู่ที่ไหน โปรดช่วยดิฉันด้วย พระเยซู” ดิฉันร้อง

ไฟลุกปะทุขึ้นทางด้านหน้าของดิฉันแต่หยุดก่อนที่มันจะสัมผัสดิฉัน คราวนี้มันดูเหมือนกับว่าเนื้อหนังของดิฉันถูกเชือดออกจากร่างกาย ความเจ็บปวดมากที่สุดอย่างยิ่งเท่าที่ดิฉันจะสามารถจินตนาการได้ ได้กระหน่ำดิฉัน ดิฉันกำลังเจ็บปวดอย่างเหลือเชื่อ บางสิ่งที่มองไม่เห็นกำลังฉีกร่างของดิฉัน ในขณะที่วิญญาณที่ชั่วร้ายในร่างกายของค้างคาวกำลังจิกดิฉันไปทั่วร่าง
“พระเยซูที่รัก” ดิฉันร้อง “พระองค์อยู่ทีไหน โอ โปรดเถิด ให้ดิฉันออกไป ให้ดิฉันออกไป”
ดิฉันถูกผลักและถูกดึงจนกระทั่งมาถึงสถานที่ที่เปิดกว้างในหัวใจของนรก ครั้นแล้วดิฉันถูกเหวี่ยงไปต่อหน้าของแท่นบูชาที่สกปรก เหนือแท่นบูชาเป็นหนังสือเล่มใหญ่ที่เปิดอยู่ ดิฉันได้ยินเสียงปีศาจหัวเราะและจำได้ว่าดิฉันกำลังนอนอยู่ในฝุ่นละอองเบื้องหน้าซาตาน
ซาตานพูด “ในที่สุดแล้วข้าก็ได้เจ้ามา”
ดิฉันกลัวจนหัวหดอยู่ในความหวาดกลัวแต่ในไม่ช้าก็ตระหนักว่าเขามิได้มองที่ดิฉันแต่มองที่คนอื่นที่อยู่ตรงหน้าของดิฉัน ซาตานพูด “ฮา ฮา ฮา ในที่สุดแล้วข้าก็สามารถทำลายเจ้าจากโลก ขอให้ข้าดูว่าข้าจะลงโทษเจ้าอย่างไร” เขาเปิดหนังสือและชี้นิ้วไปทางด้านล่างของหน้าหนังสือ ชี่อของวิญญาณถูกเรียก และการลงโทษก็ถูกจัดให้
“พระเจ้าที่รัก” ดิฉันร้อง “สิ่งนี้ทั้งหมดเป็นความจริงหรือนี่”
ดิฉันเป็นคนต่อไป และเจ้าปีศาจผลักดิฉันขึ้นมาบนแท่นและบังคับให้ดิฉันก้มหัวลงต่อหน้าซาตาน เสียงหัวเราะที่ชั่วร้ายอย่างเดียวกันดังมาจากเขา “ข้าคอยเจ้ามาเป็นเวลานาน และในที่สุดข้าก็ได้เจ้ามา” เขาร้องด้วยความดีใจอย่างอำมหิต “เจ้าพยายามหลบหนีข้า แต่คราวนี้ข้าได้เจ้ามาแล้ว”
ความกลัวเหมือนกับตอนที่ดูมันไม่เคยรู้สึกมาก่อนจนได้เกิดขึ้นกับดิฉึน เ นื้อหนังของดิฉันกำลังจะถูกเชือดไปจากดิฉันอีก
และโซ่ตรวนเส้นใหญ่ กำลังถูกพันธนาการรอบตัวของดิฉัน ดิฉันก้มมองดูตัวเองในขณะที่โซ๋ตรวนกำลังพาดอยู่บนตัวดิฉัน ดิฉันดูเหมือนคนอื่น ๆ ดิฉันเป็นโครงกระดูกที่เต็มไปด้วยกระดูกของคนที่ตายไปแล้ว ตัวหนอนคลานอยู่ภายในดิฉัน และไฟเริ่มต้นไหม้ที่เท้าและโอบล้อมดิฉันไว้ในเปลวไฟ
ดิฉันร้องอีก “โอ พระเยซู พระองค์เจ้าข้า ได้เกิดอะไรขึ้น พระองค์อยู่ทีไหน พระเยซู”
ซาตานหัวเราะและหัวเราะอีก “ไม่มีพระเยซูคริสต์ที่นี่” เขาพูด “ข้าเป็นพระเจ้าแผ่นดินของเจ้าแล้ว ณ บัดนี้ เจ้าจะอยู่กับข้าที่นี่ตลอดไปตลอดกาล เจ้าเป็นของข้าแล้ว ณ บัดนี้”
ดิฉันถูกครอบงำด้วยอารมณ์ที่หวาดกลัวมากที่สุด ดิฉันไม่สามารถรู้สึกถึงพระเจ้าได้ หรือ ไม่รู้สึกถึงความรัก หรือไม่รู้สึกถึงสันติ หรือไม่รู้สึกถึงความอบอุ่น แต่ดิฉันสามารถรู้สึกด้วยความแหลมคมมากที่สุดของประสาทสัมผัส ของความกลัว ของความเกลียดชัง ของความเจ็บปวด และของความโศกเศร้าอย่างสุดขีดเกินกว่าที่จะวัดได้ ดิฉันร้องเรียกหาพระเยซูเจ้าเพื่อให้มาช่วยดิฉันให้รอด แต่ไม่มีเสียงขานรับ
ซาตานพูด “ข้าเป็นพระเจ้าของเจ้าแล้ว ณ บัดนี้” และยกมือของเขาขึ้นเพื่อเรียกปีศาจมาอยู่ด้านข้างของเขา ในทันใดนั้น วิญญาณปีศาจที่ชั่วร้ายได้มาถึงตรงที่ดิฉันกำลังยืนอยู่ และจับตัวดิฉันไว้ เขามีร่างใหญ่ โดยมีใบหน้าเหมือนค้างคาวตัวหนึ่ง มือมีอุ้งเล็บและกลิ่นที่ชั่วร้ายระเหยมาจากเขา

“ผมจะจัดการกับหล่อนอย่างไร ซาตานพระเจ้าข้า” วิญญาณปีศาจถามในขณะที่ปีศาจอีกตนหนึ่งที่มีขนอยู่ทั่วร่างของเขาและมีใบหน้าเหมือนหมูป่าตัวผู้ที่ดุร้ายก็จับดิฉันไว้ด้วย “จงนำนางนี่ไปสู่ส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจ สถานที่ซึ่งความหวาดกลัวเคยมีอยู่ต่อหน้าต่อตาของหล่อนมาก่อน ที่นั่นหล่อนจะเรียนรู้ที่จะเรียกหาพระเจ้าของข้า”
ดิฉันถูกลากไปสู่ความมืด สถานที่มืดและถูกเหวี่ยงเข้าไปสู่บางสิ่งบางอย่างที่เย็นและเหนียวเหนอะ โอ คนเราจะรู้สึกอย่างไร ต่อความเย็นและต่อการเผาไหม้ในเวลาเดียวกัน
ดิฉันไม่รู้ แต่ว่าไฟได้ไหม้ร่างกายของดิฉัน และตัวหนอนได้คลานอยู่ทั่วตลอดเรือนร่างของดิฉัน เสียงครวญครางของคนตายเต็มอยู่ในอากาศ
“โอ พระเยซูคริสต์ พระองค์เจ้าข้า” ดิฉันร้องในความสิ้นหวัง “ทำไมดิฉันจึงมาอยู่ที่นี่ พระเจ้าที่รัก ขอให้ดิฉันออกไปเถิด”
ในทันใดนั้นเอง แสงสว่างส่องเข้ามาในสถานที่ที่ดิฉันกำลังยืนอยู่ พระเยซูคริสต์ปรากฎตัวและดึงดิฉันเข้าไปในอ้อมแขนของพระองค์ และในฉับพลันดิฉันกลับคืนมายังบ้านของดิฉัน
“พระเยซูคริสต์ พระองค์เจ้าข้า พระองค์ไปที่ใด” ดิฉันร้อง ในขณะที่น้ำตาไหลลงอาบแก้มของดิฉัน
พระเยซูคริสต์ตรัสอย่างอ่อนโยน “เด็กของเราเอ๋ย นรกนั้นเป็นจริง แต่ว่าเจ้าไม่สามารถรู้ให้แน่ จนกว่าเจ้าจะมีประสบการณ์นรกนั้นด้วยตัวของเจ้าเอง บัดนี้เจ้ารู้ความจริงและนรกนั้นเหมือนอะไรจริง ๆ ที่ตกอยู่ในนรก บัดนี้เจ้าสามารถที่จะบอกคนอื่น ๆ เกี่ยวกับนรก เราต้องให้เจ้าผ่านเข้าไปในนรกนั้น เพื่อว่าเจ้าจะรู้โดยปราศจากความสงสัย”
ดิฉันรู้สึกเศร้าใจและเหนื่อยเสียจริง ๆ ดิฉันทรุดลงในอ้อมแขนของพระเยซู และแม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น พระองค์ก็ทำให้ดิฉันกลับคืนสู่สภาพเดิมทั้งหมด ดิฉันต้องการไปให้ไกล ไกลจาก พระเยซู จากครอบครัวของดิฉัน จากทุกคน
ในวันต่อมาที่บ้านดิฉันป่วยมาก วิญญาณของดิฉันเศร้าจริง ๆ และความน่ากลัวของนรกก็ปรากฏต่อหน้าต่อตาของดิฉันตั้งแต่นั้น มันเป็นเวลาหลายวันก่อนที่ดิฉันจะฟื้นคืนสู่สภาพปกติได้ทั้งหมด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น